17 สิงหาคม 2553

การเลือกเพศให้ลูกน้อย

การเลือกเพศให้ลูกน้อย ว่าอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว

การกำหนดเพศของลูกว่าคนโตขอให้เป็นผู้ชายโตขึ้นจะได้ดูแลน้อง คนต่อมาขอให้เป็นผู้หญิง เป็นน้องสาว แลดูน่ารัก หรือเหตุผลอื่นๆ แล้วแต่ครอบครัว สมัยก่อน มีหลายคนใช้วิธีบนบานกับสิ่งศักดิ์ลทธิ์ ขอให้ได้มีลูก สาว หรือลูกชาย บางคู่มีลูกชายทั้งหมด เลยขอเจ้าพ่อให้ได้ลูกผู้สาว บ้าง บางคู่มีลูกผู้หญิงทั้งหมด แต่อยากได้ลูกชาย

ปัจจุบันการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น วิธีการทำให้มีลูกได้ง่ายขึ้น มีวีธีการเลือกเพศให้ลูกน้อยได้ หลายทาง แต่วิธีที่ไม่ยุ่งยากและได้ผลดีคือ การเลือกอสุจิที่จะไปปฏิสนธิกับไข่ ตัวอสุจิจะแบ่งออกเป็นเพศหญิง และเพศชาย เมื่อเปรียบเทียบขนาดกันแล้วจะพบว่าตัวอสุจิ ที่มีเพศหญิงมีขนาดใหญ่ หัวโตกว่า ว่ายได้ช้ากว่าและมีจำนวนน้อยกว่า แต่จะมีอายุยืนกว่าตัวอสุจิที่มีเพศชาย สำหรับตัวอสุจิเพศหญิงนั้น ทนกรดได้ดีกว่าตัวอสุจิเพศชาย ขนาดจริง ซึ่งปกติบริเวณช่องคลอดจะเป็นกรด ตัวอสุจิทั้งสองเพศจะผสมกับไข่ได้ดีในสภาวะที่เป็นด่าง ซึ่งพบได้บริเวณท่อนำไข่

รังไข่


ดังนั้นเราต้องอาศัยคุณสมบัติเหล่านี้ในการเลือกเพศให้ลูกได้ โดยใช้วิธีการปฏิบัติตัวใน
การร่วมเพศดังนี้

ถ้าอยากได้ลูกชาย
ควรปฏิบัติตัวดังนี้



1. เลือกวันมีเพศสัมพันธ์ใกล้ระยะไข่สุกให้มากทีสุดและมีติดต่อกัน 2-3 วันติดกัน ระยะไข่สุกจะวัดอุณหภูมิของกายได้ 37 องศาเซลเซียส
2. ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ควรล้างช่องคลอดด้วยโซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำครึ่งลิตร เพื่อปรับสภาพให้ช่องคลอดมีสภาพเป็น ด่าง เพื่อรักษาตัวอสุจิเพศชายที่ไม่ค่อยทนกรด
3. การสอดอวัยวะเพศเวลาหลั่งน้ำอสุจิ ต้องให้อสุจิอยู่ลึกใกล้กับ ปากมดลูกซึ่งมีสภาพเป็นด่างตามธรรมชาติ ตัวอสุจิเพศชายที่ตัวเล็ก ว่ายเร็วจะไปเจอไข่ได้ก่อนตัวอสุจิเพศหญิง
4. ภรรยาควรมีความรู้สึกกสุดยอดให้มีการหลั่งเมือกที่เป็นด่าง ออกมาเหมาะกับอสุจิเพศชาย

ถ้าอยากได้ลูกสาว
ควรปฏิบัติตัวดังนี้


1. เลือกวันมีีเพศสัมพันธ์ ตั้งแต่ประจำเดือนหมดจนถึง 3 วัน ก่อนไข่สุก แล้วงดการมีเพศสัมพันธ์ไปจนถึงต้นเดือน เนื่องจากอสุจิเพศหญิง จะมี อายุนานกว่าอสุจิเพศชาย เมื่อไข่สุกและตกออกมา จึงเหลือเพียงอสุจิเพศหญิงเท่านั้นที่ผสมกับไข่


ก่อนการมีีเพศสัมพันธ์ ควรสวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำครึ่งลิตร เพื่อให้ช่องคลอดมีสภาพเป็นกรดยิ่งขึ้นเหมาะกับตัวอสุจิเพศหญิง


3. การสอดอวัยวะเพศเวลาหลั่งน้ำอสุจิ ควรหลั่งบริเวณช่องคลอดที่มีสภาพเป็นกรดดีกว่า คืออยู่ห่างจากมดลูก


4. ภรรยาควรระงับความรู้สึกสุดยอดไม่ให้มีการหลั่งเมือกที่เป็นด่างออกมา

การปฏิบัติตัวเพียงเท่านี้ ก็สามารถเพิ่มโอกาสในการเลือกเพศให้ลูกตามที่เราต้องการได้แล้ว ว่าเราอยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย

4 สิงหาคม 2553

จะท้องมั๊ย

จะท้องมั๊ย.. เป็นคำของวัยรุ่นไทยหลายๆคน ต้องการคำตอบ วันนี้เอาข้อมูลเกี่ยวกับการต้องท้อง มาฝากให้อ่านกันเป็นความรู้

ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน แล้วสงสัยว่าจะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์หรือไม่ ก็คงต้องเข้าใจกลไกการตั้งครรภ์ก่อน ซึ่งสรุปได้ดังนี้

1. การตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นได้ จะต้องมีตัวอสุจิผสมกับไข่
2. ไข่ของผู้หญิงจะสุกเดือนละครั้ง และมีอายุประมาณ 24 ชั่วโมง
3. เชื้ออสุจิเมื่อมาอยู่ในตัวผู้หญิงแล้ว มีคุณสมบัติที่จะผสมได้ 48 ชั่วโมง
4. เมื่อไข่ของหญิงสุกแล้วถ้าไม่มีการปฏิสนธิ อีก14 วันต่อมาก็จะมีรอบเดือน
5. การตกไข่อาจมีการคลาดเคลื่อนจากวันที่คำนวณ บวกลบ 2วัน (แปลว่าอาจมีก่อน 2 วัน หรือหลัง 2 วัน )
รอบเดือน
โดยปกติหญิงจะมีรอบเดือนรอบละ 4 สัปดาห์ นั่นคือ 28 วันจะมาหนึ่งครั้ง แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีรอบเดือน รอบละ 28 วันเสมอไป บางคนก็มีรอบสั้น บางคนก็มีรอบยาว ถ้ามีรอบสั้นก็มาเร็ว เช่น รอบละ 24 วัน ก็แปลว่า ทุกๆ 24 วัน จะมาหนึ่งครั้ง ถ้าดูจากวันที่ในปฏิทิน วันที่รอบเดือนมาก็จะร่นเข้ามาเรื่อยๆ ถ้ามีรอบที่ยาว รอบเดือนก็จะมาช้าไป เช่น รอบละ 32 วัน ก็แปลว่า ทุกๆ 32 วันก็จะมีรอบเดือนหนึ่งครั้ง กรณีนี้ ถ้าดูวันที่ในปฏิทินก็จะเห็นว่า รอบเดือนจะเลื่อนออกไปทุกเดือน
แล้วอย่างนี้จะท้องหรือเปล่า

เวลาคุณถามมาว่า มีเพศสัมพันธ์วันที่....จะท้องหรือเปล่า
ผมก็จะถามว่า
รอบเดือนมาครั้งสุดท้าย วันที่เท่าไหร่ (วันแรกที่มา) ?
รอบเดือนมาสม่ำเสมอหรือไม่ ?
รอบเดือน กี่วันมาครั้ง (เช่น 30-31 วันมาครั้ง) ?
ผมก็นับจากวันแรกที่รอบเดือนมา ไปอีก 30 วัน ก็คือวันที่คาดว่ารอบเดือนควรจะมาครั้งต่อไป ผมก็เอา 14 ลบจากวันที่คาดว่ารอบเดือนจะมาครั้งต่อไป วันนั้นควรจะเป็นวันที่ไข่สุก ซึ่งเป็นวันที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุด

ตัวอย่าง
สมมุติว่า คุณถามมาว่ามีเพศสัมพันธ์วันที่ 25 เมษายน จะตั้งครรภ์ไหม
สมมุติว่ารอบเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่ 7 เมษายน (7-8-9-10 เมษายน)





รอบเดือนมาสม่ำเสมอทุกเดือน 31 วันมาหนึ่งครั้ง ก็นับจากวันที่ 7 เมษายน ไปอีก 31 วัน ก็ตรงวับวันที่ 8 พฤษภาคม รอบเดือนก็จะมาอีกครั้ง (เพราะมาตรงสม่ำเสมอ) นับถอยหลังจากวันที่ 8 พฤษภาคม (ที่กะว่ารอบเดือนจะมาครั้งต่อไป) มา 14 วัน ไข่จะสุก ก็ตรงกับวันที่ 24 เมษายน แต่เผื่อไว้ว่าไข่อาจสุก บวกลบ 2 วัน นั่นก็คือ ไข่อาจสุกได้ในวันที่ 22 - 23 - 24 - 25 - 26 เมษายน แล้วมีชีวิตถึง 27 เมษายน (มีชีวิตต่ออีก 24 ชั่วโมงที่จะผสมได้)

ถ้ามีเพศสัมพันธ์ วันที่ 20 -21 เมษายนก็ยังไม่ปลอดภัย เพราะเชื้อสุจิมีชีวิต 48 ชั่วโมง ดังนั้นวันไม่ปลอดภัย คือ 20 - 21- 22 - 23 - 24 - 25 - 26 - 27 เมษายน

คุณคงได้คำตอบว่า ถ้ามีเพศสัมพันธ์วันที่ 25 เมษายน (ที่ถามมา) จะปลอดภัยหรือไม่


**ข้อยกเว้น***

ที่ว่ามาทั้งหมดข้างต้นนี้ พูดถึงกรณีที่หญิงมีรอบเดือนมาสม่ำเสมอ สามารถกะวันที่รอบเดือนจะมาครั้งต่อไปได้ แต่ก็มีหญิงอีกจำนวนมากที่รอบเดือนมาเอาแน่นอนไม่ได้ บางเดือนก็มาเร็ว บางเดือนก็มาช้า เรียกว่ามาแบบสะเปะสะปะ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่สามารถตอบได้แล้วครับ ว่าท้องหรือไม่ท้อง

เมื่อเดือนสองเดือนที่แล้ว มีวารสารการแพทย์ฉบับหนึ่งได้รายงานการวิจัยหญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอ 28 วัน จำนวนประมาณ 200 คน พบว่า ความรู้เดิมๆที่เราเคยเชื่อกันว่า มีไข่ตกในช่วง 8 วันอันตรายนั้นไม่จริงเสียแล้ว ถ้าเปรียบการตกไข่เหมือนฝนตกแล้ว ฝนจะตกชุกในช่วง8วันอันตราย ส่วนวันอื่นๆก็อาจมีฝนตกได้บ้างเปาะแปะ รวมทั้ง 7วันแรกที่มีรอบเดือน และ 7 วันก่อนมีรอบเดือนก็อาจมีไข่ตกได้ อย่างไรก็ตามผู้รายงานสรุปว่า จำนวนตัวอย่างที่ทำยังน้อย คงต้องทำมากกว่านี้เพื่อหาคำอธิบายว่าทำไม่จึงเป็นอย่างนั้น

สำหรับผมจึงอยากเตือนว่า การใช้วิธีนับวันนั้นไม่ค่อยปลอดภัยนัก ถ้ายังไม่แต่งงานแล้วมีเพศสัมพันธ์ละก้อ ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพสัมพันธ์ดีที่สุดครับ .....27 ธันวาคม 2000

ที่มา:http://www.clinicrak.com/birthcontrol/lady_preg16.shtml